แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันความแข็งแกร่งในรังเหย้าเอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยการเปิดบ้านถล่มลิเวอร์พูลแบบไม่ไว้หน้า ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน แมนฯ ซิตี้ 3-0 ลิเวอร์พูล ในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในผลงานดีที่สุดของทีมในรอบปี ทั้งความเฉียบคม การครองเกม และจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาด ความได้เปรียบของเจ้าถิ่นเริ่มตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ทำประตูที่ 99 ในพรีเมียร์ลีกของเขาอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ซิตี้ออกนำเร็ว สร้างความกดดันให้กับเกมรับของลิเวอร์พูลอย่างต่อเนื่อง
ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน แมนฯ ซิตี้ 3-0 ลิเวอร์พูล บิ๊กแมตช์ที่เอติฮัด
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของเกมล่าสุดคือฟอร์มสุดร้อนแรงของ เฌเรมี โดกู ปีกชาวเบลเยียมที่สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับคู่แข่งตั้งแต่นาทีแรก เขาโชว์ความเร็ว จังหวะเลี้ยงกินตัว และการตัดสินใจที่เฉียบคม ก่อนจะปิดท้ายเกมด้วยการซัดประตูสุดสวย ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้เก็บประตูที่สามอย่างเหนือชั้น ผลงานของโดกูในเกมนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจและความเฉียบคมของแนวรุกซิตี้ ซึ่งอยู่ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เพิ่งทำหน้าที่คุมทีมครบ 1,000 นัด พอดี ถือเป็นการฉลองที่สมบูรณ์แบบ และเป็นสัญญาณเตือนคู่แข่งว่าเรือใบสีฟ้าอยู่ในฟอร์มที่น่ากลัว
โดกูเรียกโทษแต่ฮาลันด์พลาด—มามาร์ดาชวิลีเซฟสุดสวย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้เริ่มต้นเกมได้อย่างแข็งแกร่ง คุมจังหวะได้ตั้งแต่วินาทีแรก และบีบให้คู่แข่งต้องตั้งรับลึกอยู่ตลอดช่วงต้นเกม ภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที ซิตี้เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เฌเรมี โดกู ใช้ความเร็วกระชากเข้าเขตโทษ จนถูกทำฟาวล์ กรรมการชี้เป็นลูกจุดโทษทันที โอกาสทองตกเป็นของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่รับหน้าที่สังหาร แต่ลูกยิงกลับไม่เป็นไปตามคาด เพราะ จอร์จี มามาร์ดาชวิลี นายด่านทีมเยือนพุ่งปัดได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นจุดเปลี่ยนช่วงต้นเกมที่ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการตามหลังไปได้
ฮาลันด์มาแล้ว! โขกสุดคมจากลูกเปิดของนูเนส ซัดเม็ดที่ 14 ในลีก
ถึงแม้จะถูกสกัดและจับตาอย่างหนักตั้งแต่เริ่มเกม แต่ในที่สุด เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็ไม่อาจถูกหยุดได้ เมื่อ มาเธอุส นูเนส เปิดบอลโค้งอย่างยอดเยี่ยมเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฮาลันด์ใช้พละกำลังและจังหวะเข้าหาบอลที่เฉียบขาด แย่งโหม่งเหนือ อิบราฮิมา โกนาเต้ ก่อนส่งบอลผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปแบบแม่นยำ ประตูนี้ทำให้ดาวยิงชาวนอร์เวย์บวกสกอร์ในพรีเมียร์ลีกเพิ่มเป็น 14 ประตู ตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ยืนยันความโหดในเกมลูกกลางอากาศ และสัญชาตญาณการเข้าทำที่เฉียบคมของเขา
VAR พิฆาต! ฟาน ไดค์ โหม่งเข้าแต่ไม่เป็นประตู เหตุร็อบโบ้อยู่ล้ำหน้า
ผลบอลสด888 ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเกือบได้เฮเมื่อ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกบอลเข้าไปอย่างเฉียบคม ทำท่าจะเป็นประตูตีเสมอได้สำเร็จ แต่ความดีใจอยู่ได้ไม่นาน เมื่อ VAR เข้าตรวจสอบและตัดสินให้ประตูดังกล่าว ไม่ถูกต้อง สาเหตุเกิดจากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และมีส่วนขัดขวางการพุ่งเซฟของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม แม้โรเบิร์ตสันจะไม่ได้สัมผัสบอลโดยตรง แต่การอยู่ในตำแหน่งที่รบกวนการเล่นทำให้ VAR ตัดสินว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าอย่างชัดเจน
ซิตี้หนีสองลูก! กอนซาเลซ กดไกลแฉลบฟาน ไดค์ บอลเปลี่ยนทางเข้าประตู
หลังจากรอดพ้นจากจังหวะหวาดเสียว ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เดินหน้าทำเกมต่อเนื่องและมาได้ประตูนำห่างก่อนหมดครึ่งแรก จากจังหวะที่ นิโก้ กอนซาเลซ ได้บอลนอกกรอบ ก่อนตัดสินใจซัดทันที ลูกยิงพุ่งไปโดนแฉลบ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ทำให้ทิศทางของบอลเปลี่ยนอย่างกะทันหัน จน จอร์จี มามาร์ดาชวิลี หมดสิทธิ์เซฟ ส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่ายอย่างน่าเสียดาย จังหวะนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกนำเป็น 2-0 สร้างความได้เปรียบอย่างชัดเจนก่อนเข้าสู่ช่วงพักครึ่ง
โดกู ซัดโค้งงามหยด! ซิตี้ครองเกมเหนือกว่าตลอด คว้าชัยแบบไม่ยาก
หลังจากกลับมาลงสนามในครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงเป็นฝ่ายคุมเกมได้อย่างเด็ดขาด ทั้งการครองบอลและจังหวะบุกที่ไหลลื่น ทำให้คู่แข่งต้องถอยไปตั้งรับเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกม ความยอดเยี่ยมก็เกิดขึ้นจากฝั่งเจ้าถิ่น เมื่อ เฌเรมี โดกู โชว์สกิลส่วนตัว ลากตัดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าด้านใน ก่อนกดด้วยเท้าซ้ายโค้งเสียบเสาอย่างสวยงาม เป็นหนึ่งในประตูที่โดดเด่นที่สุดของเขาในฤดูกาลนี้ ลูกยิงระดับโลกของโดกูไม่เพียงช่วยให้ทีมตอกย้ำความเหนือกว่า แต่ยังกลายเป็นจังหวะไฮไลต์ที่แฟนบอลต้องลุกขึ้นปรบมือ
แม้แชมป์เก่าจะพยายามเร่งจังหวะหวังกลับเข้าสู่เกมเมื่อเวลาลงเหลือไม่มาก แต่ลูกทีมของ อาร์เน่ สล็อต กลับไม่สามารถสร้างโอกาสอันตรายได้อย่างที่ต้องการ หลายครั้งที่เกือบมีลุ้น แต่ก็ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย ด้านเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ โดยเฉพาะหลังการยิงประตูที่สาม ทำให้พวกเขาคุมเกมได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องออกแรงมากในช่วงท้ายเกม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเล่นอย่างเป็นระบบและมีสมาธิตลอดทั้งแมตช์ ท้ายที่สุด ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เดินหน้าเก็บชัยชนะแบบไร้ความกดดัน พร้อมเก็บแต้มสำคัญเพิ่มให้ทีม ซึ่งผลงานโดยรวมในเกมนี้ถือเป็นหนึ่งในฟอร์มที่ดีที่สุดของฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้
ติดตามไฮไลท์และผลวิเคราะห์บอลคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
