ไฮไลท์บอลเมื่อคืน โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส 2-0 ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

ไฮไลท์บอลเมื่อคืน โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส 2-0

ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก คืนวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา แฟนบอลทั่วโลกจับตาเมื่อ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย เปิดบ้านรับมือ “ตราไก่” ฝรั่งเศส คู่ชิงฟุตบอลโลก 2018 ไฮไลท์บอลเมื่อคืน โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส 2-0 โดยเกมนี้มีความเข้มข้นตั้งแต่นาทีแรก ฝรั่งเศสจัดเต็มทั้ง คีลิยัน เอ็มบัปเป้, เดมเบเล่ และโกนาเต้ หวังบุกชิงชัย แต่กลายเป็นเจ้าถิ่นที่โชว์ความแน่นอนและเฉียบขาดกว่า โดยเฉพาะอีวาน เปริชิช ที่จัดหนึ่งแอสซิสต์และหนึ่งประตูพาทีมคว้าชัย 2-0 อย่างเด็ดขาด ก่อนทั้งคู่จะเจอกันอีกครั้งในนัดที่สองคืนวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคมนี้

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส

โครเอเชีย (4-2-3-1)

  • ผู้รักษาประตู: โดมินิค ลิวาโควิช
  • กองหลัง: โยซิป สตานิซิช, โยซิป ชูตาโล่, ดูเย่ ชาเลต้า-ชาร์, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล
  • กองกลางตัวรับ: มาเตโอ โควาชิช, ลูก้า โมดริช
  • ตัวรุก: อีวาน เปริชิช (ฝั่งซ้าย), มาร์ติน บาตูริน่า (กลาง), อันเดร ครามาริช (ขวา)
  • หน้าเป้า: อันเต้ บูดิเมียร์

ฝรั่งเศส (4-3-1-2)

  • ผู้รักษาประตู: ไมค์ เมนญอง
  • กองหลัง: ชูลส์ กุนเด้, อิบราฮิมา โกนาเต้, วิลเลี่ยม ซาลีบา, ลูว์กา ดีญ
  • กองกลาง: มัตเตโอ เกนดูซี, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์
  • ตัวรุกกลาง: อุสมาน เดมเบเล่
  • กองหน้า: คีลิยัน เอ็มบัปเป้, ร็องดาล โกโล่ มูอานี่

ไฮไลท์บอลเมื่อคืน โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส 2-0

ไฮไลท์บอลเมื่อคืน ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายระหว่างโครเอเชียและฝรั่งเศสที่สนามสตาดิโอน โพลยุด เปิดฉากขึ้นท่ามกลางความคาดหวังสูงจากทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่ขนทัพดาราระดับโลกมาหวังคว้าชัยนอกบ้าน

ไฮไลท์ โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส 2-0

  • นาทีที่8: โครเอเชียได้ลุ้นก่อนจากจุดโทษที่ อันเดร ครามาริช รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปติดเซฟ ไมค์ เมนญอง พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
  • นาทีที่26: เกมรุกทางฝั่งซ้ายของโครเอเชียทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม อีวาน เปริชิช เปิดบอลแบบแม่นยำเข้าหัว อันเต้ บูดิเมียร์ โขกเต็มแรงติดเซฟ แต่บอลกระเด้งย้อนเข้าประตู โครเอเชียนำ 1-0
  • นาทีที่45+1: เปริชิชยังคงเป็นตัวทีเด็ดของเกม คราวนี้เจ้าตัวฉวยโอกาสจากบอลปลิ้นในเขตโทษ กดด้วยขวากระดอนพื้น พุ่งเสียบหน้าต่างเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด โครเอเชียหนีห่าง 2-0

ครึ่งหลังฝรั่งเศสพยายามบุกหนัก หวังตีไข่แตก แต่ไม่สามารถผ่านแนวรับและฟอร์มเหนียวของ โดมินิค ลิวาโควิช ได้เลย จบเกม โครเอเชียคว้าชัยเหนือแชมป์เก่า 2-0 สร้างความได้เปรียบก่อนนัดที่สอง

เปริชิชตัวแสบ – ป่วนแนวรับตราไก่จนหัวปั่น

อีวาน เปริชิช กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โครเอเชียคว้าชัยในแมตช์นี้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยประสบการณ์ระดับโลกและการเคลื่อนที่ที่เฉียบขาด เกมรุกฝั่งซ้ายของเขาสร้างปัญหาให้แนวรับฝรั่งเศสตลอด 90 นาทีนอกจากแอสซิสต์ให้ประตูแรก เปริชิชยังเป็นคนยิงประตูที่สองแบบสุดสวยจากจังหวะหลุดเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาแบบไม่จับ ลูกบอลกระดอนพื้นก่อนพุ่งเข้าเสาแรกชนิดที่ผู้รักษาประตูไม่มีโอกาสเซฟ การเล่นของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ แสดงให้เห็นว่าแม้อายุจะมากขึ้นแต่ความอันตรายของเขายังคงอยู่

ฟอร์มระดับนี้ของเปริชิชอาจเป็นสัญญาณบอกว่าเขายังสามารถเป็นตัวหลักให้ทีมชาติได้อีกหลายปี โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างยูโร 2024 ที่กำลังจะมาถึง โครเอเชียโชคดีที่มีผู้เล่นแบบเขายืนประจำการริมเส้น

ผลบอล โครเอเชีย VS ฝรั่งเศส 2-0

ฝรั่งเศสไร้พิษสงบุกแต่ไร้จังหวะจบสกอร์

แม้ว่าฝรั่งเศสจะครองบอลได้มากในครึ่งหลังและพยายามเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาใหญ่ของพวกเขาคือ “ความคม” ในพื้นที่สุดท้าย เกมนี้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แทบไม่มีบทบาทในการสร้างจังหวะอันตรายเหมือนที่เคย

อุสมาน เดมเบเล่ ก็ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ ส่วน ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ ก็ถูกล็อกตายจากแนวรับโครเอเชียโดยเฉพาะกวาร์ดิโอลที่โชว์ฟอร์มสุดแข็งแกร่ง เกมนี้ฝรั่งเศสไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบแบบชัดเจนแม้แต่ลูกเดียวในครึ่งหลัง

การพ่ายแพ้แบบหมดรูปนี้สะท้อนถึงความไม่ลงตัวของทีม โดยเฉพาะในระบบ 4-3-1-2 ที่ยังขาดบาลานซ์ทั้งรุกและรับ หากดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ต้องการผ่านเข้ารอบ เขาต้องหาทางปรับแผนการเล่นใหม่ในนัดที่สอง เพราะแนวรุกฝรั่งเศสวันนี้ไร้พิษสงแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

สรุปเกมโครเอเชีย 2-0 ฝรั่งเศส เปริชิชนำชัย ตราไก่ต้องเร่งเครื่อง

เกมนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า “ทีมเวิร์ค” ยังสำคัญกว่าความเป็นซูเปอร์สตาร์ เมื่อโครเอเชียรวมพลังกันเล่นอย่างมีระเบียบและมีประสิทธิภาพ ทั้งในเกมรุกที่นำโดยเปริชิช และเกมรับที่เหนียวแน่นจนฝรั่งเศสเจาะไม่เข้า ฝั่ง “ตราไก่” แม้จะมีเอ็มบัปเป้ แต่ก็ไม่อาจฝ่าด่านแนวรับสุดแกร่งของโครเอเชียได้ นัดนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญก่อนกลับไปแก้ตัวในบ้าน หากฝรั่งเศสยังไม่เร่งฟอร์ม เกมยกสองอาจกลายเป็นจุดจบของพวกเขาในรายการนี้

ข่าวบอลอื่นๆที่น่าสนใจ